ประสบการณ์ 11 ปี สู่พอร์ตกองทุน $1,200,000

แชร์ประสบการณ์ 11ปี พิชิตพอร์ตกองทุนกว่า $1,200,000

*อธิบายวิธีคิดแบบละเอียดฉบับ ASLAN ครับ

• ท่าเทรดที่มี Win rate สูงๆ ไม่ได้การันตี ความสำเร็จในระยะยาว แต่ การที่เน้น RRR โดยที่ Win rate ไม่จำเป็นต้องสูงมาก และ Position sizing ที่น้อย มีผลในระยะยาวจริงๆ ทำให้ยืนระยะ และมีโอกาสได้เรียนรู้ กับตลาดFx ต่อไป

• ทุกคนที่เข้ามา ล้วนมาเอาเงินจากตลาด แต่คนที่ได้เงินจากตลาดนี้ เก่งเรื่องการบริหารหน้าตัก ต่างจากคนที่เสียเงินให้ตลาด เก่งเรื่องท่าเทรด

• การเทรดแบบดุดัน เน้นที่ตัวเงินเป็นหลัก จะทำให้ยากต่อการ Manage Energy เพราะใช้ พลังงานกับความเครียดที่สูงมาก ตลาดรอเวลาที่เรา การ์ดตก รวบเอาคืนได้ในจังหวะเดียว

• การเทรดโดยเสพแต่ข่าวนำเหมือนกับ คนหูหนวก กับ คนตาบอด นั่งคุยกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจ เพราะข่าวที่ถูกกลั่น ออกมาถึงผู้เสพนั้น กว่าจะผ่านกระบวนการต่างๆ ข่าวนั้นได้ส่งผลกับกราฟราคาเรียบร้อยแล้ว และเป็นข่าวที่สร้างเหตุ มา Support ผลลัพธ์เท่านั้นเอง >ราคาจากตลาดFx คือ “Data” คนส่วนใหญ่ไปทางไหน ตลาดจะไปตรงกันข้าม

• ราคาที่แสดงออกมานั้น สะท้อนทุกสิ่ง ทุกอย่างไว้แล้ว 

• คนที่เก่งๆ ไม่มีใครยึดติดวิธีการใด วิธีการหนึ่ง ตลอดไป นักเทรดที่ประสบความสำเร็จนั้น “พร้อมรับมือ และปรับตัว  ปรับวิธีการ“ ให้เข้ากับสภาวะตลาดอยู่เสมอ

• อารมณ์ คือ ”ศัตรูตัวร้าย“ ของนักเทรด  เมื่อเกิดอารมณ์เสียดาย และ พยายามเอากำไรที่เคยได้กลับมา เมื่อมีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง ผลงานการเทรด ก็ยิ่งแย่ เพราะฉะนั้น ระบบเท่านั้น ที่จะช่วยให้เราควบคุมอารมณ์ได้มากที่สุด ที่เหลือมีแค่เราทำตาม ระบบที่เราวางไว้ ถ้าทำไม่ได้ ก็เข้าLoop เดิม

• การพักผ่อน การได้ไปเที่ยว เหมือนการเอาเครื่องจักรทำงานของเราไปเข้าอู่ พักฟื้นระบบ เพื่อให้พร้อมกลับมาทำงาน ทำให้ผลงานการเทรดเสถียรมากยิ่งขึ้น

• สิ่งที่ชัดเจนที่สุด คือ ค่อยๆโต “ช้าๆแต่ชัวร์” วิธีนี้ง่ายที่สุด และ Powerful แต่คนส่วนใหญ่มองข้าม

• กำไร หนักๆ หวือหวา แต่ก็ขาดทุน ง่าย และ หนักมากเช่นกัน 

• การเทรดผิดทางเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ถูก จะทำยังไง ให้ได้กำไรมากที่สุด อันนี้สำคัญที่สุด

• หน้าที่ของ เทรดเดอร์ที่ดี 80% มาจากการ ”รอ” แล้วก็ “รอ”เหมือน สิงโต จ้องเหยื่อ เหยื่อพลาดเมื่อไหร่ เมื่อนั้นค่อยโจมตี 

• ทุกครั้งที่พยายามเอาทุนคือ แบบหน้ามืดตามัว หายนะจะตามมาทันที 

• หลายๆคนอาจจะมอง หน้าเทรด แล้วนำ Risk/reward ที่เยอะเป็นตัวตัดสิน แต่ลืมคำนึงถึง Hit rate ที่มีคุณภาพเพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ

• ไม่จำเป็นต้องเป็น หุ้น เพียงอย่างเดียว เพราะนักลงทุนที่ดี มักจะมองหาโอกาสที่ดีให้กับตัวเราเสมอ ถึงจะสามารถเอาตัวรอดในตลาดได้อย่างมั่นคง

• ความรู้เต็มไปหมด แต่ไม่ทำ = ไม่รู้

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อ่านโพสต์นี้ แล้วได้รับประโยชน์และแนวทาง พิมพ์ใต้ Comment นี้ว่า “ทำได้”